หลักสูตร “การเป็นวิทยากรผู้นำระบบมวลชนสัมพันธ์”

(Interactive  Training  Instructor)

1. ความจำเป็น

                เนื่องจากงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  เช่น  เทศบาลนคร  และเทศบาลเมืองต่าง ๆ  จำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือของผู้นำและกรรมการชุมชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ  ในการพัฒนาท้องถิ่น  ตามนโยบายและแผนงานประจำปีที่ได้แถลงไว้ต่อสภาเทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  แต่ความตื่นตัวและแนวคิดด้านการปกครองระบบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น  ยังไม่ได้มีการพัฒนาให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของประเทศ  จึงทำให้ความเข้าใจในการเป็นผู้นำชุมชนก็ดี  การเข้ามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นก็ดี  และการพิทักษ์ปกป้องสิทธิอันพึงมีพึงได้อย่างเหมาะควรก็ดี  ยังจำเป็นต้องได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมพัฒนาให้ผู้นำชุมชนในเขตพื้นที่  มีความรู้  ความเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้นำที่มาจากระบอบประชาธิปไตย

การปลูกฝังและส่งเสริมการพัฒนาดังกล่าว  จำเป็นจะต้องดำเนินการฝึกอบรมด้วยระบบมวลชนสัมพันธ์  (Interactive)  โดยการปฏิบัติงานไปด้วยกัน  เรียนรู้ไปด้วยกัน  และเติบโตไปด้วยกัน  ผู้ที่จะเป็นวิทยากรฝึกอบรมในกระบวนการดังกล่าว  จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเทคนิคพิเศษเพิ่มเติมจากการเป็นวิทยากรฝึกอบรมโดยทั่ว ๆไป เพื่อให้มีความรู้เชิงประยุกต์ในด้านจิตวิทยามวลชน  จิตวิทยาชุมชน  การเข้าใจมนุษย์ในเชิงพฤติกรรมกลุ่ม  พฤติกรรมมวลชน  และการดำเนินงานด้านการปรับแต่งพฤติกรรม (Behavior Modification)    ของผู้นำชุมชน

2. วัตถุประสงค์

2.1  เพื่อปลูกฝังแนวคิดและหลักการด้านการฝึกอบรมระบบมวลชนสัมพันธ์  เพื่อให้สามารถเข้าใจ  เข้าถึง  และพัฒนาชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.2  เพื่อฝึกฝนทักษะและวิธีการที่ต้องใช้ในกระบวนการฝึกอบรมระบบมวลชนสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จ

2.3  เพื่อพัฒนาเทคนิคการเป็นวิทยากรระบบมวลชนสัมพันธ์เต็มรูปแบบ   ให้แก่ผู้ที่จะเป็นวิทยากรระบบค่าย (Camp  Training)  ได้ในชีวิตจริง

3. เนื้อหาวิชา

3.1  ความรู้เรื่องชุมชนและจิตวิทยามวลชน

3.2  ลักษณะและรูปแบบการฝึกอบรมระบบมวลชนสัมพันธ์

3.3  หลักการและวิธีการดำเนินการฝึกอบรมด้วยระบบมวลชนสัมพันธ์

3.4  กิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้ในการฝึกอบรมระบบค่ายผจญภัย  (Outward  Bound  Seminar)

3.5  การพัฒนาตนเองให้มีขีดความสามารถเป็นวิทยากรระบบมวลชนสัมพันธ์

3.6  ข้อควรระวังในการดำเนินงานฝึกอบรมระบบมวลชนสัมพันธ์

3.7  การฝึกปฏิบัติจริงทั้งในสถานการณ์จำลองและสถานการณ์จริง

4. ระยะเวลาเวลาในการฝึกอบรม

5  วัน  4  คืน (รวม  50  ชั่วโมง)  โดยทุกคนจะต้องอยู่ในกระบวนการจนครบหลักสูตร  100%

5. คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึกอบรม

5.1  ต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการกลักสูตร  “การเป็นวิทยากรฝึกอบรม”   (64  ชั่วโมง)  มาแล้วไม่น้อยกว่า  60  วัน หรือเป็นวิทยากรที่มีประสบการณ์ในการสอนไม่น้อยกว่า 3 ปีและต้องสอบผ่านแบบทดสอบการเป็นวิทยากรด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 75.00 %

5.2  มีอายุระหว่าง  25 – 55  ปี  เนื่องจากจะต้องใช้กำลังกายในการฝึกอบรม (ยกเว้นผู้ที่มีอายุเกิน  55  ปี  ที่มีสุขภาพดีเป็นพิเศษ)

5.3  ต้องสามารถอยู่ในกระบวนการฝึกอบรมได้ตลอดหลักสูตร  และเข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกชนิดโดยไม่มีข้อยกเว้น

5.4  รับผู้เข้าฝึกอบรมได้รุ่นละไม่เกิน  32  คน

5.5  ผู้ที่สอบผ่านทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ  ด้วยคะแนนรวมร้อยละ  75.00  ขึ้นไป  จึงจะได้รับวุฒิบัตรรับรองการเป็นวิทยากรระบบมวลชนสัมพันธ์ 

6. วิทยากร

 ดร. โสภณ  ภูเก้าล้วน และทีมงาน